เลเซอร์แผลนูน vs ฉีดสเตียรอยด์ วิธีไหนดีกว่ากัน?
แผลเป็นนูน หรือที่เรียกกันว่า คีลอยด์ เป็นปัญหาแผลเป็นที่หลายคนกังวลใจ เพราะนอกจากจะทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนแล้ว บางครั้งยังทำให้รู้สึกคันหรือเจ็บอีกด้วย! วิธีรักษาที่นิยมมากๆ ในปัจจุบันก็คือ เลเซอร์ และ การฉีดสเตียรอยด์ แต่ทั้งสองวิธีนี้มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกัน แล้วแบบไหนดีกว่ากัน? วันนี้มาดูไปพร้อมๆกันเลย
สารบัญ
Toggleเลเซอร์รักษาแผลคีลอยด์คืออะไร?
การใช้เลเซอร์ในการรักษาแผลเป็นคีลอยด์ เป็นกระบวนการใช้พลังงานแสงเลเซอร์ไปทำลายเนื้อเยื่อแผลที่ทำให้เกิดความนูน และช่วยปรับสีผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น โดยเลเซอร์ที่นิยมใช้ ได้แก่ Pulsed Dye Laser (PDL) และ Fractional CO2 Laser และ PicoCare Laser

ข้อดีของเลเซอร์
- ลดความนูนของแผลเป็น และช่วยให้สีของแผลจางลง
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวกลับมาเรียบเนียน
- ไม่ต้องใช้เข็มฉีดยา เหมาะกับคนที่กลัวเข็ม
- ฟื้นตัวเร็ว และลดอาการคันหรือเจ็บของแผล
ข้อเสียของเลเซอร์
- ต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผลที่ชัดเจน
- ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการฉีดสเตียรอยด์
- อาจมีอาการแดงหรือระคายเคืองผิวชั่วคราวหลังทำ
การฉีดสเตียรอยด์คืออะไร?
การฉีด สเตียรอยด์ (Steroid Injection) เป็นวิธีที่ช่วยลดการอักเสบของแผล ทำให้แผลค่อย ๆ ยุบตัวลงและนิ่มขึ้น โดยแพทย์จะฉีดยาเข้าไปที่บริเวณแผลโดยตรง

ข้อดีของการฉีดสเตียรอยด์
- เห็นผลไว แผลเป็นคีลอยด์จะยุบลงภายในไม่กี่สัปดาห์
- ค่าใช้จ่ายไม่สูงมากเมื่อเทียบกับเลเซอร์
- เหมาะกับแผลเป็นคีลอยด์ขนาดเล็กถึงปานกลาง
ข้อเสียของการฉีดสเตียรอยด์
- อาจทำให้ผิวบางหรือเกิดรอยบุ๋มถ้าฉีดมากเกินไป
- อาจต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง โดยเว้นระยะห่างกัน 4-6 สัปดาห์
- มีโอกาสที่แผลเป็นจะกลับมาเป็นซ้ำได้
- อาจรู้สึกเจ็บขณะฉีด
- อาจเกิด รอยด่างขาว หรือ ผิวหนังฝ่อ ในบริเวณที่ฉีด
- ในบางกรณีอาจทำให้ เส้นเลือดฝอยขยายตัว ทำให้ผิวบริเวณนั้นแดงกว่าปกติ
วิธีไหนดีกว่ากัน?
ขึ้นอยู่กับลักษณะของแผลเป็นคีลอยด์และความต้องการของแต่ละคนเลย!
- ถ้าอยากให้แผลจางลง และปรับสีผิวให้ดูเนียนขึ้น เลเซอร์ อาจตอบโจทย์มากกว่า
- ถ้าอยากให้แผลยุบเร็วขึ้น และไม่อยากเสียเงินเยอะ การฉีดสเตียรอยด์ อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
- ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ ทั้งสองวิธีร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและตรงตามต้องการ
💡 เลเซอร์ เหมาะกับคนที่อยากให้แผลจางลงแบบค่อยเป็นค่อยไป และไม่อยากฉีดยา
💉 ฉีดสเตียรอยด์ เหมาะกับคนที่ต้องการให้แผลยุบเร็วและค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก
🔄 บางครั้งการใช้ ทั้งสองวิธีร่วมกัน จะให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้แนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิว และเหมาะกับรอยแผลเป็นที่มี
- นิติธรรมคลินิก สาขาพิษณุโลก สอบถาม/จองคิว โทร.097-251-3390
- นิติธรรมคลินิก สาขากรุงเทพ(สีลม) BTS ศาลาแดง สอบถาม/จองคิว โทร.095-289-9998