ปรึกษาแพทย์ ทาง LINE

กรุงเทพ & พิษณุโลก นิติธรรมคลินิก

จันทร์ - อังคาร : 11:00 - 19:00
พฤหัสบดี - อาทิตย์ : 11:00 - 19:00
หยุดทุกวันพุธ
04
พ.ย.

รู้ก่อนเริ่มรักษา สิวอุดตัน สิวอักเสบ ต้องดูแลแบบไหน พร้อมวิธีดูแลรอยสิวหลังการรักษา

หลายคนเข้าใจว่าสิวเกิดจาก “ความสกปรก” หรือ “ฮอร์โมน” เพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วสิวมีหลายประเภท และสาเหตุของแต่ละแบบก็แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อการเลือกแนวทางการดูแลที่เหมาะสม หากเรารู้จักสิวของตัวเองชัดเจน การรักษาก็จะเห็นผล และลดโอกาสเกิดรอยสิวที่ตามมาได้

รู้จักสิวแต่ละแบบ ก่อนตัดสินใจรักษา

ก่อนเริ่มรักษาสิว สิ่งแรกที่ควรเข้าใจคือ “สิวแบบไหนที่กำลังเป็นปัญหาอยู่” เพื่อจะได้เลือกวิธีดูแลที่ถูกต้องที่สุด

  • สิวอุดตัน

เกิดจากการอุดตันของไขมันและเซลล์ผิวในรูขุมขน ไม่มีอาการอักเสบ มีทั้งแบบหัวเปิด (สิวหัวดำ) และหัวปิด (สิวหัวขาว) พบได้บ่อยบริเวณหน้าผาก คาง และจมูก เหมาะกับการดูแลด้วยการเปิดหัวสิว ร่วมกับเวชสำอางที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว

  • สิวอักเสบ

เกิดจากสิวอุดตันที่ติดเชื้อแบคทีเรียจนเกิดการอักเสบ บวมแดง และเจ็บ มักพัฒนาไปเป็นสิวหัวหนองหากปล่อยไว้นาน การรักษาควรลดการอักเสบโดยเร็ว เช่น ฉีดสิว ทายาเฉพาะจุด หรือลดการสะสมของแบคทีเรียด้วยเลเซอร์ฆ่าเชื้อ

แนวทางการดูแลสิวและรอยสิวอย่างถูกวิธี โดยแพทย์

ที่นิติธรรมคลินิก เราให้ความสำคัญกับการดูแลผิวแบบเฉพาะบุคคล เนื่องจากปัญหาผิวของคนไข้แต่ละท่านมีความแตกต่างกัน เราจึงไม่มี “คอร์สรักษาสิว” ที่เป็นรูปแบบตายตัว แต่เรามุ่งเน้นการประเมินและวางแผนที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

แนวทางการดูแลสิวของนิติธรรมคลินิก สามารถสรุปเป็นขั้นตอนหลักๆ ได้ดังนี้

1. การปรึกษาและประเมินโดยแพทย์

ขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุด คือการเข้าปรึกษาแพทย์ของคลินิก เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินสภาพผิว ประเภทของสิว (เช่น สิวอุดตัน สิวอักเสบ) และความรุนแรงของปัญหา เพื่อนำไปสู่การวางแผนการดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสมเฉพาะบุคคลโดยเร็ว

2. การปฏิบัติตัวของคนไข้ (ข้อแนะนำระหว่างดูแล)

ความร่วมมือของคนไข้เป็นสิ่งสำคัญมากในกระบวนการดูแลสิว โดยมีข้อแนะนำหลักๆ ดังนี้

  • งดการแกะหรือบีบสิว พฤติกรรมนี้จะทำให้เกิดรอยดำ-รอยแดง และอาจนำไปสู่ปัญหาแผลเป็นหลุมสิว ทำให้กระบวนการดูแลโดยรวมล่าช้ามากขึ้น
  • การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยอาจต้องงดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางชนิด และบางผลิตภัณฑ์อาจได้รับอนุญาตให้ใช้ต่อได้ตามที่แพทย์เห็นสมควร

3. การดูแลสิวด้วยแสงและเลเซอร์

หลังจากประเมินผิวแล้ว แพทย์จะพิจารณาใช้เทคโนโลยีแสงหรือเลเซอร์เข้ามาช่วยในการดูแลสิว โดยเฉพาะในกลุ่มสิวอุดตัน แนวทางของแพทย์จะมุ่งเน้นไปที่การช่วยลดการอักเสบและป้องกันการอุดตันใหม่ เพื่อลดโอกาสการกลับมาเป็นสิวซ้ำ

4. การดูแลรอยสิวและแผลเป็น (หลังสิวสงบ)

ส่วนสำคัญของกระบวนการคือการจัดการร่องรอยที่สิวทิ้งไว้ ที่นิติธรรมคลินิกมีเทคโนโลยีเลเซอร์หลายชนิดเพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • เลเซอร์สำหรับลดรอยแดง-รอยดำ จากสิว
    • Pico Laser
    • Spectra Gold
    • ProYellow
    • Sylfirm-X
    • MiiN laser
  • เลเซอร์สำหรับกระชับรูขุมขนและลดความมัน (เพื่อป้องกันสิวใหม่)
    • Sylfirm-X
  • เลเซอร์สำหรับดูแลแผลเป็นหลุมสิว
    • Pico Laser
    • MiiN laser
    • eMatrix
    • Sylfirm-X

แนวทางทั้งหมดนี้จะถูกปรับให้เข้ากับสภาพผิวของคนไข้แต่ละคน โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

วิธีดูแลรอยสิวหลังการรักษา ด้วยตัวเอง

หลังสิวหายจะเหลือ “รอยสิว”ทิ้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นรอยแดง รอยดำ หรือแม้แต่หลุมสิว รอยเหล่านี้สามารถดูแลให้จางลงหรือดีขึ้นได้ หากเริ่มดูแลอย่างถูกวิธีตั้งแต่ต้น

  1. การป้องกันแสงแดด (สำคัญที่สุด) แสงแดดเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้รอยดำ (PIH) มีสีเข้มขึ้น และทำให้รอยแดง (PIE) หายช้าลง ดังนั้น จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ “กันแดดต้องใช้ด้วย” ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF เหมาะสมเป็นประจำทุกวัน แม้ในวันที่ไม่ได้ออกจากบ้านก็ตาม
  2. หลีกเลี่ยงการกระตุ้นผิว พฤติกรรมการสัมผัสใบหน้าเป็นสิ่งต้องห้ามเด็ดขาด โดยเฉพาะ “ห้ามแกะห้ามแงะห้ามแคะห้ามกด” บริเวณที่เป็นสิวหรือรอยสิว เพราะการรบกวนผิวซ้ำๆ อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบใหม่ หรือทำให้รอยเดิมเข้มขึ้นและนานหายกว่าเดิม
  3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม มองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมซึ่งมีการศึกษาว่าอาจช่วยในเรื่องการลดเลือนรอยดำ รอยแดง และช่วยต้านอนุมูลอิสระ เช่น
    • กรดทรานเอกซามิก (Tranexamic Acid)
    • วิตามินซี (Vitamin C)
    • ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide)
    • แอสตาแซนธิน (Astaxanthin)
  4. ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ในช่วงที่ผิวกำลังฟื้นฟูและมีรอยสิว ควรใส่ใจการทำความสะอาดเป็นพิเศษ โดยแนะนำให้ใช้ “โฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนมากๆ” เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เพื่อไม่ให้เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ถูกทำลาย
  5. ดูแลสุขภาพผิวจากภายใน พยายามดูแลผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิวได้ง่าย เช่น ในบางรายอาจต้องระมัดระวัง “ในกลุ่มของนม…หรือว่าอาหารที่มีความ หวาน” เพราะอาจสัมพันธ์กับการเกิดสิวใหม่หรือการอักเสบได้

แต่สำหรับ “หลุมสิว” (Atrophic Scars) ซึ่งเกิดจากการที่เนื้อเยื่อผิวหนังถูกทำลาย การดูแลด้วยตัวเองมักไม่เพียงพอ จำเป็นต้องอาศัยหัตถการทางการแพทย์เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมและสร้างคอลลาเจนใหม่ เช่น การใช้เลเซอร์, การตัดพังผืด (Subcision), หรือการใช้สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

หากคุณกำลังรู้สึกกังวลกับสิวที่ไม่ยอมหาย ลองปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะกับผิวของคุณ เพราะการดูแลสิวที่ดี เริ่มต้นจาก “การเข้าใจผิวของตัวเอง” และได้รับคำแนะนำจากแพทย์นิติธรรมโดยตรง นอกจากที่สาขาพิษณุโลกแล้ว นิติธรรมคลินิกยังมีบริการรักษาสิว กรุงเทพ โดยทีมแพทย์ประจำคลินิก พร้อมเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อการดูแลปัญหาสิวโดยเฉพาะ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือจองคิวปรึกษาแพทย์ได้ที่
นิติธรรมคลินิก พิษณุโลก
โทร: 055-303899, 097-251-3390
Line: https://lin.ee/mxQAzch
Facebook: นิติธรรม คลินิก
นิติธรรมคลินิก กรุงเทพ (สีลม)
โทร: 095-289-9998
Line: https://lin.ee/kUu8NAt
Facebook: นิติธรรม คลินิก สาขาสีลม Btsศาลาแดง

โปรแกรมรักษาสิว ที่ นิติธรรมคลินิก กรุงเทพ

รักษาสิว ที่นิติธรรมคลินิก เน้นการรักษาตาม Standard Guideline โดยแพทย์ผิวหนัง ซึ่งการรักษาในคนไข้แต่ละรายจะมีความแตกต่างตามบุคคล