รู้ก่อนเริ่มรักษา สิวอุดตัน สิวอักเสบ ต้องดูแลแบบไหน พร้อมวิธีดูแลรอยสิวหลังการรักษา
หลายคนเข้าใจว่าสิวเกิดจาก “ความสกปรก” หรือ “ฮอร์โมน” เพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วสิวมีหลายประเภท และสาเหตุของแต่ละแบบก็แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อการเลือกแนวทางการดูแลที่เหมาะสม หากเรารู้จักสิวของตัวเองชัดเจน การรักษาก็จะเห็นผล และลดโอกาสเกิดรอยสิวที่ตามมาได้
สารบัญ
Toggle
รู้จักสิวแต่ละแบบ ก่อนตัดสินใจรักษา
ก่อนเริ่มรักษาสิว สิ่งแรกที่ควรเข้าใจคือ “สิวแบบไหนที่กำลังเป็นปัญหาอยู่” เพื่อจะได้เลือกวิธีดูแลที่ถูกต้องที่สุด
- สิวอุดตัน
เกิดจากการอุดตันของไขมันและเซลล์ผิวในรูขุมขน ไม่มีอาการอักเสบ มีทั้งแบบหัวเปิด (สิวหัวดำ) และหัวปิด (สิวหัวขาว) พบได้บ่อยบริเวณหน้าผาก คาง และจมูก เหมาะกับการดูแลด้วยการเปิดหัวสิว ร่วมกับเวชสำอางที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว
- สิวอักเสบ
เกิดจากสิวอุดตันที่ติดเชื้อแบคทีเรียจนเกิดการอักเสบ บวมแดง และเจ็บ มักพัฒนาไปเป็นสิวหัวหนองหากปล่อยไว้นาน การรักษาควรลดการอักเสบโดยเร็ว เช่น ฉีดสิว ทายาเฉพาะจุด หรือลดการสะสมของแบคทีเรียด้วยเลเซอร์ฆ่าเชื้อ

แนวทางการดูแลสิวและรอยสิวอย่างถูกวิธี โดยแพทย์
ที่นิติธรรมคลินิก เราให้ความสำคัญกับการดูแลผิวแบบเฉพาะบุคคล เนื่องจากปัญหาผิวของคนไข้แต่ละท่านมีความแตกต่างกัน เราจึงไม่มี “คอร์สรักษาสิว” ที่เป็นรูปแบบตายตัว แต่เรามุ่งเน้นการประเมินและวางแผนที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
แนวทางการดูแลสิวของนิติธรรมคลินิก สามารถสรุปเป็นขั้นตอนหลักๆ ได้ดังนี้
1. การปรึกษาและประเมินโดยแพทย์
ขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุด คือการเข้าปรึกษาแพทย์ของคลินิก เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินสภาพผิว ประเภทของสิว (เช่น สิวอุดตัน สิวอักเสบ) และความรุนแรงของปัญหา เพื่อนำไปสู่การวางแผนการดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสมเฉพาะบุคคลโดยเร็ว
2. การปฏิบัติตัวของคนไข้ (ข้อแนะนำระหว่างดูแล)
ความร่วมมือของคนไข้เป็นสิ่งสำคัญมากในกระบวนการดูแลสิว โดยมีข้อแนะนำหลักๆ ดังนี้
- งดการแกะหรือบีบสิว พฤติกรรมนี้จะทำให้เกิดรอยดำ-รอยแดง และอาจนำไปสู่ปัญหาแผลเป็นหลุมสิว ทำให้กระบวนการดูแลโดยรวมล่าช้ามากขึ้น
- การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยอาจต้องงดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางชนิด และบางผลิตภัณฑ์อาจได้รับอนุญาตให้ใช้ต่อได้ตามที่แพทย์เห็นสมควร
3. การดูแลสิวด้วยแสงและเลเซอร์
หลังจากประเมินผิวแล้ว แพทย์จะพิจารณาใช้เทคโนโลยีแสงหรือเลเซอร์เข้ามาช่วยในการดูแลสิว โดยเฉพาะในกลุ่มสิวอุดตัน แนวทางของแพทย์จะมุ่งเน้นไปที่การช่วยลดการอักเสบและป้องกันการอุดตันใหม่ เพื่อลดโอกาสการกลับมาเป็นสิวซ้ำ
4. การดูแลรอยสิวและแผลเป็น (หลังสิวสงบ)
ส่วนสำคัญของกระบวนการคือการจัดการร่องรอยที่สิวทิ้งไว้ ที่นิติธรรมคลินิกมีเทคโนโลยีเลเซอร์หลายชนิดเพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนี้
- เลเซอร์สำหรับลดรอยแดง-รอยดำ จากสิว
- Pico Laser
- Spectra Gold
- ProYellow
- Sylfirm-X
- MiiN laser
- เลเซอร์สำหรับกระชับรูขุมขนและลดความมัน (เพื่อป้องกันสิวใหม่)
- Sylfirm-X
- เลเซอร์สำหรับดูแลแผลเป็นหลุมสิว
- Pico Laser
- MiiN laser
- eMatrix
- Sylfirm-X
แนวทางทั้งหมดนี้จะถูกปรับให้เข้ากับสภาพผิวของคนไข้แต่ละคน โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

วิธีดูแลรอยสิวหลังการรักษา ด้วยตัวเอง
หลังสิวหายจะเหลือ “รอยสิว”ทิ้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นรอยแดง รอยดำ หรือแม้แต่หลุมสิว รอยเหล่านี้สามารถดูแลให้จางลงหรือดีขึ้นได้ หากเริ่มดูแลอย่างถูกวิธีตั้งแต่ต้น
- การป้องกันแสงแดด (สำคัญที่สุด) แสงแดดเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้รอยดำ (PIH) มีสีเข้มขึ้น และทำให้รอยแดง (PIE) หายช้าลง ดังนั้น จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ “กันแดดต้องใช้ด้วย” ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF เหมาะสมเป็นประจำทุกวัน แม้ในวันที่ไม่ได้ออกจากบ้านก็ตาม
- หลีกเลี่ยงการกระตุ้นผิว พฤติกรรมการสัมผัสใบหน้าเป็นสิ่งต้องห้ามเด็ดขาด โดยเฉพาะ “ห้ามแกะห้ามแงะห้ามแคะห้ามกด” บริเวณที่เป็นสิวหรือรอยสิว เพราะการรบกวนผิวซ้ำๆ อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบใหม่ หรือทำให้รอยเดิมเข้มขึ้นและนานหายกว่าเดิม
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม มองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมซึ่งมีการศึกษาว่าอาจช่วยในเรื่องการลดเลือนรอยดำ รอยแดง และช่วยต้านอนุมูลอิสระ เช่น
- กรดทรานเอกซามิก (Tranexamic Acid)
- วิตามินซี (Vitamin C)
- ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide)
- แอสตาแซนธิน (Astaxanthin)
- ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ในช่วงที่ผิวกำลังฟื้นฟูและมีรอยสิว ควรใส่ใจการทำความสะอาดเป็นพิเศษ โดยแนะนำให้ใช้ “โฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนมากๆ” เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เพื่อไม่ให้เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ถูกทำลาย
- ดูแลสุขภาพผิวจากภายใน พยายามดูแลผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิวได้ง่าย เช่น ในบางรายอาจต้องระมัดระวัง “ในกลุ่มของนม…หรือว่าอาหารที่มีความ หวาน” เพราะอาจสัมพันธ์กับการเกิดสิวใหม่หรือการอักเสบได้
แต่สำหรับ “หลุมสิว” (Atrophic Scars) ซึ่งเกิดจากการที่เนื้อเยื่อผิวหนังถูกทำลาย การดูแลด้วยตัวเองมักไม่เพียงพอ จำเป็นต้องอาศัยหัตถการทางการแพทย์เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมและสร้างคอลลาเจนใหม่ เช่น การใช้เลเซอร์, การตัดพังผืด (Subcision), หรือการใช้สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
หากคุณกำลังรู้สึกกังวลกับสิวที่ไม่ยอมหาย ลองปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะกับผิวของคุณ เพราะการดูแลสิวที่ดี เริ่มต้นจาก “การเข้าใจผิวของตัวเอง” และได้รับคำแนะนำจากแพทย์นิติธรรมโดยตรง นอกจากที่สาขาพิษณุโลกแล้ว นิติธรรมคลินิกยังมีบริการรักษาสิว กรุงเทพ โดยทีมแพทย์ประจำคลินิก พร้อมเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อการดูแลปัญหาสิวโดยเฉพาะ
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือจองคิวปรึกษาแพทย์ได้ที่
นิติธรรมคลินิก พิษณุโลก
โทร: 055-303899, 097-251-3390
Line: https://lin.ee/mxQAzch
Facebook: นิติธรรม คลินิก
นิติธรรมคลินิก กรุงเทพ (สีลม)
โทร: 095-289-9998
Line: https://lin.ee/kUu8NAt
Facebook: นิติธรรม คลินิก สาขาสีลม Btsศาลาแดง

โปรแกรมรักษาสิว ที่ นิติธรรมคลินิก กรุงเทพ
รักษาสิว ที่นิติธรรมคลินิก เน้นการรักษาตาม Standard Guideline โดยแพทย์ผิวหนัง ซึ่งการรักษาในคนไข้แต่ละรายจะมีความแตกต่างตามบุคคล












