ผมร่วงจนบาง กลัวหัวล้าน? มีทางออก! Regen Lab PRP รักษาผมร่วง ผมบาง
หลายคนคงเคยสังเกตเห็นผมที่หลุดร่วงมากขึ้นเวลาสระผม หรือเริ่มเห็นหนังศีรษะได้ชัดมากกว่าเดิม ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้ชายอย่างเดียว ผู้หญิงก็เจอปัญหาผมร่วง ผมบางเช่นเดียวกัน วันนี้เรามาดูกันว่าทำไม Regen Lab PRP ถึงเป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยได้
ก่อนอื่นเลยเรารู้กันก่อนว่าเพราะอะไรผมถึงร่วง อะไรคือสาเหตุ อะไรคือปัจจัยของปัญหาผมร่วงกันแน่
ผมร่วง เกิดจาก?
ปัญหาผมร่วงอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ปัจจัยทางพันธุกรรม เป็นสาเหตุหลักของการร่วงผม โดยเฉพาะการร่วงผมแบบ Androgenetic Alopecia
- ฮอร์โมน DHT ทำให้รูขุมขนหดตัวและผมร่วงมากขึ้น
- ความเครียด จากการทำงานและชีวิตประจำวันส่งผลต่อวงจรการเจริญเติบโตของผม
- การดูแลที่ไม่เหมาะสม หวีผมแรงเกินไป ใช้ความร้อนบ่อยๆ หรือผูกผมแน่น แม้แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม
Regen Lab PRP คืออะไร?
PRP ย่อมาจาก Platelet-Rich Plasma หมายถึงเลือดของเราเองที่ผ่านการแยกส่วนประกอบมาแล้ว เหลือแต่ส่วนที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้นและสารดีๆ ที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์
Regen Lab เป็นระบบหนึ่งที่ใช้เตรียม PRP ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อดีคือรักษาคุณภาพของเกล็ดเลือดและสารต่างๆ ได้ดี ทำให้ได้ PRP ที่มีคุณภาพสำหรับการรักษา
กระบวนการทำไม่ซับซ้อน แพทย์จะเจาะเลือดจากเราประมาณ 1 หลอดเล็กๆ แล้วเอาไปใส่เครื่องปั่นเพื่อแยกส่วนประกอบ หลังจากนั้นจะได้พลาสมาที่เข้มข้น จากนั้นแพทย์จะฉีดเข้าไปในจุดที่ผมบางบริเวณหนังศีรษะ

ประโยชน์ที่จะได้รับจาก Regen Lab PRP
PRP ที่ได้จากเลือดเราเองนั้นเต็มไปด้วยสารดีๆ ที่ช่วยในการซ่อมแซมและเสริมสร้างเซลล์ เมื่อฉีดเข้าไปในหนังศีรษะ จะช่วยปรับปรุงการไหลเวียนเลือดที่ไปเลี้ยงรูขุมขน ทำให้รูขุมขนได้รับสารอาหารมากขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจคือ PRP ช่วยปลุกรูขุมขนที่หยุดทำงานให้กลับมาทำงานอีกครั้ง รวมถึงช่วยให้ผมที่งอกออกมาใหม่หนาขึ้นและแข็งแรงขึ้น บางคนที่ทำแล้วพบว่าผมร่วงน้อยลง และเมื่อเวลาผ่านไปจะเห็นว่าผมดูมีปริมาณมากขึ้น
เนื่องด้วยวิธีการนี้เป็นการใช้เลือดตัวเองทำให้ปลอดภัยกว่าการใช้สารเคมี หรือวิธีการอื่น เพราะร่างกายคุ้นเคยและไม่มีการปฏิเสธ ความเสี่ยงของการแพ้จึงน้อยมาก ๆ
ใครเหมาะสมกับการรักษา?
- ผู้ที่มีผมร่วงระยะเริ่มต้นถึงปานกลาง
- ผู้ที่ต้องการวิธีการรักษาที่ใช้สารจากร่างกายตัวเอง
- ผู้ที่ต้องการรักษาร่วมกับวิธีอื่น
จะเห็นผลเมื่อไหร?
วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมจะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ โดยทั่วไปจะเริ่มสังเกตได้ว่าผมร่วงน้อยลงภายในช่วง 3-6 เดือนแรก ส่วนการเห็นเส้นผมใหม่งอกขึ้นมาจะใช้เวลานานกว่านั้น โดยจะอยู่ที่ประมาณ 6-12 เดือน
ปกติแพทย์จะแนะนำให้ทำการรักษาประมาณ 3-6 ครั้ง โดยห่างกันเดือนครึ่ง ขึ้นอยู่กับสภาพหนังศีษะของแต่ละคน ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องทำซ้ำเป็นระยะ เพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ได้
การดูแลตัวเองช่วยได้
การรักษาด้วย PRP จะได้ผลดีขึ้นถ้าเราดูแลตัวเองร่วมด้วย
การดูแลผม
- เลือกแชมพูที่อ่อนโยน ไม่ใช้สารเคมีแรงๆ
- หวีผมเบาๆ อย่าดึงแรง ถ้าผมพันกันให้ใช้น้ำหรือครีมช่วยก่อน
- หลีกเลี่ยง การใช้ความร้อนบ่อยๆ
การดูแลสุขภาพ
- หาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น ออกกำลังกาย ฟังเพลง ทำงานอดิเรก
- นอนหลับให้เพียงพอ เพราะร่างกายจะซ่อมแซมตัวเองตอนนอน
- กินอาหารให้หลากหลาย โดยเฉพาะไข่ ปลา ถั่ว ผักใบเขียว และผลไม้
การเลือกสถานรักษา
เรื่องสำคัญคือต้องเลือกแพทย์ที่มีความรู้เรื่องการรักษาผมร่วง สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมา ดูว่าสถานที่สะอาด มีมาตรฐาน และใช้อุปกรณ์ที่ดี
แพทย์ที่ดีจะอธิบายกระบวนการอย่างละเอียด บอกทั้งข้อดีข้อเสีย ไม่สัญญาผลลัพธ์เกินจริง และให้เราตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล และอย่าลืมถามเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วย

เริ่มต้นดูแลปัญหาผมร่วงก่อนที่จะสายไป
หากคุณกังวลเรื่องผมร่วงหรือผมบาง อย่ารอจนกว่าปัญหาจะรุนแรงขึ้น การปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีการรักษาที่เหมาะสมเป็นก้าวแรกที่สำคัญ
Regen Lab PRP เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้คุณมีความมั่นใจในเรื่องผมมากขึ้น สิ่งสำคัญคือการเลือกสถานบริการและแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์ เพื่อให้ได้รับการดูแลที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับความต้องการของคุณ
การรักษาผมร่วงเป็นเรื่องของความอดทนและความต่อเนื่อง แต่เมื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสมและดูแลตนเองอย่างถูกต้อง ก็สามารถช่วยให้คุณกลับมามีความมั่นใจในเรื่องผมได้