ปรึกษาแพทย์ ทาง LINE

กรุงเทพ & พิษณุโลก นิติธรรมคลินิก

จันทร์ - อังคาร : 11:00 - 19:00
พฤหัสบดี - อาทิตย์ : 11:00 - 19:00
หยุดทุกวันพุธ
11
ก.ย.

ผิวแห้ง คัน ผื่นเห่อ…สัญญาณเตือนของ “โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง” และวิธีป้องกันไม่ให้ลุกลาม

อาการผิวแห้ง คัน และมีผื่นขึ้นตามตัวอาจดูเหมือนปัญหาทั่วไปที่เกิดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศแห้งหรือเปลี่ยนฤดูกาล แต่หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ร่วมกับผื่นที่ลุกลาม หรือมีอาการเรื้อรังที่รักษาแล้วไม่หาย อาจไม่ใช่แค่ผิวแห้งธรรมดา แต่อาจเป็นสัญญาณของภาวะที่เรียกว่า “โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง” โรคนี้พบได้บ่อยในเด็ก แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเป็นได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติภูมิแพ้ เช่น หอบหืด หรือแพ้อากาศ หากละเลยหรือไม่ดูแลอย่างเหมาะสม โรคอาจลุกลามจนรบกวนชีวิตประจำวันได้มากกว่าที่คิด

เข้าใจโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังให้ลึกขึ้น

โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง คือ โรคเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติของเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย และไวต่อสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอากาศ สารเคมี หรือแม้แต่ความเครียด เมื่อเกราะผิวอ่อนแอ ผิวจะเกิดการอักเสบระยะยาว และนำไปสู่อาการแห้ง คัน และผื่นแดง โรคนี้มีลักษณะเป็น ๆ หาย ๆ มีอาการกำเริบในช่วงที่อากาศเปลี่ยน 

อาการที่บ่งบอกว่าคุณอาจมีโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

ผู้ที่มีโรคนี้จะมีอาการมากในช่วงวัยเด็ก และอาจดีขึ้นเมื่อโตขึ้น แต่ก็มีผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยที่เริ่มมีอาการครั้งแรกในวัยทำงาน อาจสับสนกับผิวแห้งธรรมดา

  • ผิวแห้งหยาบ ลอกเป็นขุย โดยเฉพาะบริเวณข้อพับ แขน ขา หรือหลัง
  • คันมาก โดยเฉพาะตอนกลางคืน หรือหลังอาบน้ำ
  • มีผื่นแดงหรือตุ่มน้ำใส ขึ้นตามผิวหนัง
  • ผื่นมักขึ้นซ้ำ ๆ ในตำแหน่งเดิม
  • หากเกา อาจเกิดแผล หรือรอยดำตามมา
  • บางรายอาจมีผิวหนังหนาขึ้นจากการเกาเรื้อรัง

สาเหตุที่ทำให้อาการกำเริบ

โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังมีสาเหตุจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่

  • พันธุกรรม 

ผู้ที่มีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องเป็นโรคภูมิแพ้ จะมีโอกาสเป็นโรคนี้สูงขึ้น

  • เกราะป้องกันผิวอ่อนแอ 

ส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น และมีการอักเสบได้ง่าย

  • สภาพแวดล้อม 

อากาศแห้ง เย็น หรือมลภาวะสามารถกระตุ้นให้อาการกำเริบ

  • สารระคายเคือง 

เช่น น้ำยาซักผ้า สบู่ที่มีฟองมาก หรือผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอม

  • ภาวะทางอารมณ์ 

ความเครียดและความวิตกกังวลมีส่วนทำให้อาการแย่ลง

  • เชื้อจุลชีพ 

บางกรณีอาจพบว่าผื่นติดเชื้อแบคทีเรียหรือยีสต์ ทำให้อักเสบรุนแรงขึ้น

การวินิจฉัยและดูแลเบื้องต้น

หากมีอาการเข้าข่ายโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง โดยแพทย์จะดูจากลักษณะผื่น ตำแหน่ง และประวัติทางครอบครัวร่วมด้วย หากมีภาวะแทรกซ้อน อาจมีการตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจผิวหนัง หรือทดสอบภูมิแพ้

แนวทางการดูแลประกอบด้วย

  • ให้ความชุ่มชื้นกับผิวอย่างสม่ำเสมอ

โดยเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่ไม่มีน้ำหอมหรือสารกระตุ้น ไม่ควรรอให้ผิวแห้งมากก่อนทา ควรทาหลังอาบน้ำทันที

  • ลดการใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ที่มีฟองมาก

ควรเลือกสูตรอ่อนโยน หรือสบู่สำหรับผิวแพ้ง่าย

  • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้คันหรือแพ้

เช่น น้ำร้อน อากาศแห้ง ฝุ่น หรือสารเคมีในชีวิตประจำวัน

  • ไม่เกาผื่นหรือรอยคัน

เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้ผิวอักเสบ หรือเกิดรอยถาวร

  • หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาทาเฉพาะจุด

เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือยากลุ่มอื่นที่ลดการอักเสบ

วิธีป้องกันไม่ให้ผื่นลุกลาม

  1. บำรุงผิวให้ต่อเนื่องแม้ไม่มีผื่น

ผิวของผู้ที่เป็นโรคนี้ยังคงมีแนวโน้มอ่อนแอ แม้ไม่มีผื่นแล้ว การทามอยส์เจอไรเซอร์จึงยังสำคัญ

  1. ปรับสภาพแวดล้อมให้อ่อนโยนกับผิว

ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศในช่วงที่อากาศแห้ง สวมเสื้อผ้าฝ้าย หลีกเลี่ยงผ้าขนสัตว์หรือผ้าใยสังเคราะห์

  1. ดูแลสุขภาพกายและใจ

ออกกำลังกายเบา ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และลดความเครียด เพราะอารมณ์ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง

  1. ระวังผิวในช่วงอากาศเปลี่ยน

ฤดูหนาวหรือช่วงที่มีฝุ่นมาก ควรดูแลผิวเป็นพิเศษ และหลีกเลี่ยงการออกไปในที่ที่มีอากาศแห้งจัด

การดูแลผิวอย่างถูกวิธี และเข้าใจธรรมชาติของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังจะช่วยให้สามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งการรักษาที่รุนแรง หากเริ่มมีอาการผิวแห้ง คัน หรือผื่นขึ้นซ้ำ ๆ อย่ารอให้ลุกลาม ควรเริ่มดูแลตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจะได้ผลดีกว่าการปล่อยให้เรื้อรัง

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือจองคิวปรึกษาแพทย์ได้ที่

นิติธรรมคลินิก พิษณุโลก
โทร: 055-303899, 097-251-3390
Line: https://lin.ee/mxQAzch
Facebook: นิติธรรม คลินิก

นิติธรรมคลินิก กรุงเทพ (สีลม)
โทร: 095-289-9998
Line: https://lin.ee/kUu8NAt
Facebook: นิติธรรม คลินิก สาขาสีลม Btsศาลาแดง